หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ถามข้อข้องใจ!!! ทำไม CPU i3 บางตัวถึงดีกว่า i5 หรือ i5 ดีกว่า i7

         สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาอธิบายข้อข้องใจที่หลายคนสงสัยว่า ทำไม cpu ที่มี series น้อยกว่าบางตัวถึงมีประสิทธิภาพหรือความเร็วมากกว่า series ที่สูงกว่า ในที่นี้ผมจะเปรียบเทียบชิป CPU core i series กันนะครับ



         ก่อนอื่นผมขออธิบายศัพท์เทคนิคเกี่ยวกับ CPU ที่ควรรู้ก่อนนะครับ

             - Core คือ แกนของ CPU เป็นเกือบทั้งหมดที่จำเป็นในการเป็น CPU ในสมัยก่อน CPU 1 ตัว จะมีแค่ 1 core แต่ตอนนี้เริ่มพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆโดยจับหลายๆ core มารวมอยู่ในชิพเดียว และคุณคงเคยได้ยินคำว่า "คอร์แท้ กับ คอร์เทียม" บางคนคิดว่า CPU ที่มีคอร์แท้จะมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากกว่า คอร์เทียม ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดอยู่พอสมควร ผมจะอธิบายความหมายของคอร์แท้และคอร์เทียมให้ฟังนะครับ
                      คอร์แท้ นั่นก็คือ core ที่ผมให้ความหมายในข้างต้น ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีการผลิตจะลดลงเหลือเพียง 22 nm จึงทำให้ CPU ตัวเดียวสามารถใส่ Core ได้มากยิ่งขึ้น พูดง่ายๆก็คือ 1 คอร์แท้จะสามารถทำงานได้ทีละหนึ่งคำสั่งเปรียบได้กับ ถนนสายใหญ่หนึ่งสายที่มีรถพลุกพล่าน
                      คอร์เทียม หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Hyper-Treading ได้คิดค้นจากทาง Intel ลักษณะคือมันจะทำการจำลอง core เพิ่่มขึ้นจากเดิมอีกเท่าตัว เพื่อที่จะสามารถรับคำสั่งต่างๆได้มากขึ้น และมีความเสถียรภาพมากจากเดิม ทั้งที่มีจำนวน core เท่าเดิม ซึ่งจะเปรียบได้กับ ถนนสายใหญ่ที่แบ่งเลน เช่น ถนน 1 สาย แบ่งเป็น 2 เลน รถก็จะเดินทางได้สะดวกขึ้นจากเดิมที่มีเพียงเลนเดียว

             - Tread มักจะเกี่ยวข้องกับการรันโปรแกรม ปัจจุบันโปรแกรมจะทำงานชุดคำสั่งแบบขนาน ก็คือ Thread ปกติของ CPU จะทำงานได้แค่ 1 Thread ต่อ 1 Core ในเวลาเดียวกัน ส่วนคำว่า Hyper-Threading ของ Intel จะเป็นตัวจำลองให้ CPU Core สามารถทำงานได้ 2 Thread พร้อมกัน ผมขออธิบาย Hyper-Threading จากวีดีโอนี้เพื่อให้คุณรู้จักมากขึ้น



              - Cache จะมีการทำงานเหมือนกับ RAM แต่จะอยู่ใน CPU และมีความเร็วเยอะกว่ามาก ท่านคงเคยสังเกตตัวย่อที่เขียนว่า L1 L2 L3 มันก็คือ Level ของ Cache นั่นเอง ซึ่ง L1 จะมีความเร๋็วมากที่สุดและเล็กที่สุด ส่วน L3 จะช้ากว่า แต่ออกแบบมาให้ทำงานที่หลากหลายกว่า เช่น สามารถใช้ร่วมกันระหว่าง Core ได้ ซึ่งปกติจะออกมาให้ L1 และ L2 เป็นของ Core ใคร Core มัน ถ้าท่านยัง งงๆ อยู่ ผมมีข้อเปรียบเทียบที่ฟังแล้วอาจเข้าใจขึ้นนะครับ คือ

                         RAM = โต๊ะ ยิ่งเยอะเท่าไรก็วางของได้มาก
                         HDD = ชั้นวางหนังสือ

                         L1 Data เหมือน Post-it จดได้น้อยแต่หาได้เร็ว
                         L2        เหมือน กระดาษ จดได้เยอะกว่า แต่หาได้ช้ากว่า
                         L3        เหมือน สมุดบันทึก จดได้เยอะมาก หาช้ามาก
                     

         เอาล่ะครับเราก็ได้รู้จักกับคำศัพท์ที่น่ารู้กันไปแล้วเรามาเข้าเรื่องของเรากันดีกว่า...อย่างแรกต้องขอบอกก่อนเลยว่า CPU Core i-sereis นั้นถูกออกแบบมาใช้เป็นชิพที่ทำงานได้กว้างมาก สามารถประมวลผลคำสั่งแบบขนานได้มากกว่ารุ่นก่อนๆ
         ผมขอย้อนไปในอดีตที่ได้นำเอาเทคโนโลยีการแบ่งทรัพยากรที่เรียกว่า "Hyper-Treading(คอร์เทียม)"เคยเปิดตัวในสมัยชิพ Pentium 4 @3.06 GHz แต่เนื่องจากมีแอพพลิเคชั่นบางตัวเท่านั้นที่ถูกเขียนมาสำหรับ Hyper-Treading ดังนั้นจึงไม่ค่อยได้รับสมรรถภาพเพิ่มขึ้นสักเท่าไร หลังจากนั้นเทคโนโลยีนี้ได้หายไป ต่อมาทาง intel ได้นำเทคโนโลยี Hyper-Treading มาใช้กับ CPU Core i-series ชิพตัวใหม่อีกครั้ง เพราะได้พัฒนาให้ CPU Core i-series มี Brandwith, ขนาดCache, การทำงานแบบขนาน

         ถ้าจะกล่าวถึง CPU core i3, i5 และ i7 โดยจะแบ่งระดับกลุ่มผู้ใช้งาน จะแบ่งเป็น ระดับราคาถูก ราคากลาง ราคาแพงตามลำดับ แต่ในปัจจุบัน ทาง Intel ได้พัฒนาชิพ CPU Core i-series ทั้งหมด 4 generation อันได้แก่ Gen1 Gen2 Gen3 และ Gen4 ซึ่ง Generation เหล่านี้มีผลต่อความเร็วและประสิทธิภาพของ CPU อย่างมาก โดยเมื่อผมลองเปรียบเทียบคะแนน Benchmarks (อ้างอิงจาก http://www.cpubenchmark.net/cpu.php?cpu=Intel+Core+i7+975+%40+3.33GHz&id=841)


        จะเห็นว่า Intel Core i7 975 @3.33 GHz มีคะแนนน้อยกว่า Intel Core i5 ถึงสามรุ่น ซึ่งเราสรุปได้ว่าถึงแม้ จะเป็น CPU ระดับ Core i7 ก็ไม่ได้ดีกว่า Core i5 เสมอไป ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับ Generation เพราะแต่ละ Gen ได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น แต่บางครั้งผลคะแนนก็ไม่ได้วัดผลได้ 100% บางครั้งประสิทธิภาพของ CPU ก็ขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่ใช้งานว่าเหมาะสมกับชิพตัวนั้นๆ ด้วย



ข้อเปรียบเทียบของทั้งสองรุ่นจะสังเกตว่า i7 975 จะมี Technology 45 nm มีความใหญ่กว่า i5 3570k ที่มีขนาด 22 nm

คำถามยอดฮิต!!!โปรแกรมต่างๆ ที่ใช้ในการเรียน

โปรแกรมไหนทีเหมาะกับการเรียน

                วันนี้ผมจะมาแนะนำโปรแกรมที่น่าสนใจเหมาะกับการเรียน ซึ่งหลายคนเรียนในสายการเรียนที่ไม่เหมือนกันแต่หลักๆแล้วโปรแกรมที่ใช้กันทั่วๆไปก็จะมีดังนี้


         1. Adobe Reader เป็นโปรแกรมสำหรับอ่านเอกสารที่เป็นไฟล์ที่มี สกุล .pdf ซึ่งไม่สามารถแก้ไขภายในเนื้อหาได้ แต่สามารถจะเน้นข้อความหรือว่าโน๊ตในหน้านั้นๆได้ โปรแกรมนี้เป็น freeware สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี 





         2. Microsoft Office เป็นโปรแกรมที่รู้จักกันดีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นวัยเรียนหรือแม้กระทั่งวัยทำงาน ที่สามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์ อาทิเช่น การพิมพ์เอกสาร การนำเสนอ การทำแผนงาน แผ่นพับ ใบปลิว ไปจนถึงการทำบัญชีรรายรับรายจ่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วซอฟต์แวร์ของ Microsoft Office ที่ใช้จะมี Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft Power Point ปัจจุบันมีถึงเวอร์ชั่น Microsoft Office 2013 ถ้าจะใช้ของแท้คงต้องยอมเสียเงินของท่านเพื่อที่จะได้ของดีและมีคุณภาพมาใช้กันอย่างถูกลิขสิทธิ์  แต่ผมมีอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากเสียเงิน ผมมีโปรแกรม freeware ที่เป็นลักษณะเดียวกับ Microsoft Office เช่นกัน โปรแกรมนี้ชื่อว่า "LibreOffice" ซึ่งก็จะสามารถเปิดไฟล์ .doc ,.ppt, .xls ได้เช่นกัน สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี



        3. Calculator โปรแกรมเครื่องคิดเลข ไว้สำหรับคำนวณเลขทางคณิตศาสตร์ สำหรับผู้ที่ใช้ windows ไม่ว่าเวอร์ชั่นใดก็ตาม ก็จะมีให้อยู่แล้ว ใน window XP และ vista จะมีแค่ บวก ลบ คูณ หาร และการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ธรรมดา ดังรูป




แต่ window 7,8,8.1 ก็จะมีฟังก์ชันเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก สองฟังชัน คือ
        -  programmer ใช้ในการคำนวณคณิตศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์ เช่น เลขฐาน เลขMod จำนวนbyte
        -  statistics ใช้ในการคำนวณคณิตศาสตร์ทางสถิติ เช่น หาค่าเฉลี่ย หาค่ากลาง ฐานนิยม ฯลฯ



       4. Google Chrome เป็นเว็บบราวส์เซอร์ที่ใครพูดมาแล้วต้องร้อง อ๋อ ขึ้นมาทันที ใช้กันอย่างแพร่หลายอย่างมาก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า Google เป็นเว็บไซต์ search engine ที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ใน Google Chrome นี้ก็อัดแน่นเต็มไปด้วย ฟังก์ชันมากมายที่อำนวยความสะดวกต่อผู้ใช้งาน ทั้งการค้นหาข้อความ ค้นหารูป ค้นหาเส้นทาง(Google map) ค้นหาคำศัพท์(Google Translate) และแอพพลิเคชั่นอื่นๆอีกมากมาย สามารถเข้าได้ที่ chrome webstore ถ้าเราลองนึกดูแล้ว Google Chrome เป็นโปรแกรมที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ใช้งานเลยทีเดียวเพราะมีลูกเล่นที่หลากหลายเหมาะสำหรับวัยเรียนและวัยทำงานที่ต้องมาค้นหาข้อมูลต่างๆ แต่เว็บบราวส์เซอร์ก็ไม่ได้มีแค่ Google Chrome เพียงอย่างเดียว โปรแกรมอื่นๆ ก็มีทั้ง Internet Explorer ที่มีติดตัวในวินโดวส์อยู่แล้ว หรือ Mozila Firefox ก็มีการใช้งานที่ดีไม่แพ้กัน โปรแกรมดังกล่าวก็เป็น freeware ทั้งหมดสามารถดาวน์โหลดได้ตามเว็บไซต์ หรือดาวน์โหลดตามลิงค์ที่นี่ได้






วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์

10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับการใช้งานคอมพิวเตอร์        

         วันนี้ผมจะมาพูดถึงปัญหาของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปที่ถามถึงบุคคลที่เรียนหรือทำงานสายคอมพิวเตอร์ ที่มักจะได้ยินกันบ่อยๆ ซึ่งมีมากมายหลายคำถาม ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งระบบปฏิบัติการ(ลงวินโดวส์) เครื่องดับเปิดไม่ติด คอมค้าง หรือแม้กระทั่ง สมาทโฟนหรือแท็ปเลตก็ยังมีคำถามอยู่เช่นกัน และในอนาคตก็คงจะมีคำถามเหล่านี้เพิ่มเรื่อยๆ เพราะปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าอย่างมาก สามารถเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายได้หลายอย่าง อีกทั้งเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้มีเฉพาะแค่คนมีฐานะดีเหมือนในอดีตเท่านั้น คนทั่วๆไปก็สามารถมีไว้ครอบครองได้เช่นกัน 


            คำถามทั้ง 10 ข้อนี้ ผมได้รวบรวมจากประสบการณ์ในชีวิตที่มีคนทั่วไปถามกัน มีดังต่อไปนี้


               1. window 8 ต่างกับ window 8.1 อย่างไร?
               2. คุณสามารถลงวินโดว์ใหม่ให้ได้ไหม?
               3.ทำไมอยู่ๆหน้าจอกลายเป็นสีฟ้า(blue screen)?
               4. Baidu มาได้อย่างไร และมีวิธีถอนการติดตั้งไหม?
               5. คุณสามารถติดตั้งแอฟพลิเคชั่น สำหรับสมาร์ทโฟน ได้ไหม?
               6. คุณคิดว่า อินเตอร์เน็ต องค์การไหนใช้ดีที่สุด?
               7. ทำไม window แจ้งเตือนให้ลงทะเบียน (Activate)?
               8. ทำไม IDM(Internet Download Manager) ไม่เด้งขึ้นให้ดาวน์โหลด?
               9. เลือกซื้อคอมพิวเตอร์ หรือแลปทอบ ยี่ห้อไหนดี ต้องการแบบเล่นเกมไม่กระตุก?
              10. มีวิิธีไหนที่ทำให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน ลื่นไหล ไม่ค้าง?



            คำถามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีคำตอบ และข้อแก้ไข สำหรับคนที่เรียนอยู่สายคอมพิวเตอร์ไม่ควรที่จะมองข้ามในเรื่องเหล่านี้ ควรที่จะศึกษาไว้บ้าง เพื่อที่จะนำมาพัฒนาเทคโนโลยีในภายภาคหน้าอีกด้วย...